หน้าร้อนใกล้มาถึงแล้ว สำหรับคู่รักที่กำลังวางแผนจัดงานแต่งงานในสวน วันนี้เรามี Collection Spring 2013 ของ Elizabeth Fillmore มาฝากค่ะ ชุดของเธอเน้นความเรียบง่ายแต่สง่างามพร้อมแรงบันดาลใจจากโลกแห่งเวทมนตร์ของสวนดอกไม้
Wednesday, March 27, 2013
Friday, March 22, 2013
10 trend setting wedding hairstyles for 2013
เมื่อพูดถึง "ทรงผมเจ้าสาว" ในงานแต่งงาน ซึ่งถือเป็นอย่างแรกที่ทุกคนต้องเห็น เพราะทรงผมนั้นจะมีส่วนสำคัญกับใบหน้า ที่จะเสริมให้ดูสวยมีชีวิตชีวามากขึ้น จึงไม่แปลกที่เจ้าสาวจะให้ความสำคัญไม่แพ้ชุดแต่งงาน ดังนั้น วันนี้ลองมาเช็กดูว่าเทรนด์ทรงผมเจ้าสาวแบบไหน ที่มาแรงในปี 2013 แถมสามารถทำเองได้ด้วยค่ะ โดยเริ่มกันที่...
1. ทรงผมถักเปียยาว ยังเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ผมแต่งงานที่ได้รับความนิยมมาตลอด โดยเฉพาะทรงผมถักเปียตามแนวยาวของผมด้านหลัง ซึ่งเป็นทรงผมที่สวยแถมยังมีการเพิ่มลูกเล่นในทรงผม ด้วยการถักเปียเส้นเล็กคาดหน้าผมในสไตล์โบฮีเมียน หรือประดับดอกไม้สีขาวเล็กแซมตามรอยถัก ก็สามารถทำได้แถมดูเก๋ไปอีกแบบเช่นกันค่ะ
2. ทรงผมเกล้ามวยสูง ซึ่งทรงผมนี้จะเข้าตาตั้งแต่แรกเห็น เพราะมีลักษณะคล้ายขนมปังก้อนอยู่ด้านบน อาจจะทำทรงผม ม้วนกลม หรืออาจจะม้วนแบบยุ่ง พอง ๆ และอาจจะมีการเพิ่มลูกเล่นด้วยการนำผ้าคลุมผมติดไว้ด้านล่างของมวยผม หรือจะติดดอกไม้ก็สวยเหมือนกัน
3. ทรงผมถักเปียก้างปลา ถือเป็นทรงผมที่ได้รับนิยมาก เพราะเป็นทรงผมที่ดูเรียบง่าย ธรรมดา ดูง่าย ๆ สะอาด และยังเป็นการโชว์ผมที่ตรงสวยของสาว ๆ ได้อีกด้วย
4. ทรงผมเกล้ามวยต่ำด้านหลังหรือด้านข้าง ถือเป็นทรงผมสุดคลาสสิกของเจ้าสาวทุกคน ส่วนด้านหน้าจะเน้นการแบ่งผมเฉียงซ้ายหรือขวา หรือแบ่งกลางตามความเหมาะสม รวมทั้งเป็นทรงผมที่เหมาะสมกับทุกงานอีกด้วยค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว บ้านเราก็จะนิยมทำผมทรงนี้ เพราะเหมาะกับชุดแต่งงานแบบไทย แถมยังสามารถติดเครื่องประดับได้หลากหลายอีกด้วย
5. ทรงผมยาวตรง เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่มีผมสวยอยู่แล้วโดยไม่ต้องแต่งเติมอะไร เพียงแค่ไดร์เบาให้เข้าทรงก็พอแล้ว แต่อย่าให้ยุ่งจนเกินนะคะ ถือเป็นทรงผมที่ง่ายที่สุดเข้ากับทุกโทนสีการแต่งหน้า แถมเข้าได้กับชุดแต่งงานทุกสไตล์ด้วย
6. ทรงผมแนววินเทจ เป็นทรงผมแต่งงานที่โชว์สไตล์การแต่งตัวที่เป็นตัวของตัวเองแบบชัดเจน ซึ่งอาจจะเป็นทรงบ๊อบขนาดสั้น ที่ไดร์พอให้ผมพอง ๆ ให้ดูพองาม หรือจะเป็นผมยาวที่เน้นการม้วนที่ปลายผมให้มีวอลลุ่มหน่อย ๆ หรืออาจจะเป็นการเก็บผมด้านหน้าหรือด้านข้างรวบไว้ข้างหลัง เพื่อเป็นการเปิดหน้าสาว ๆ ให้เห็นชัดมากยิ่งขึ้น
7. ทรงผมมวยผมด้านหลัง คล้ายหญิงชาวฝรั่งเศสในอดีต เป็นอีกหนึ่งทรงผมที่ได้รับการตอบรับที่ดี สำหรับทรงผมสไตล์นี้ อาจเพราะการม้วนมวยผมไว้ด้านหลังคล้ายขนมปังกลม ๆ สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ทุกที่ แถมมีลักษณะทรงผมที่ทำยุ่ง ๆ แบบไม่ตั้งใจ แต่ผลออกมากลับสวยเรียบร้อย ส่วนใหญ่จะใช้ในงานแต่งงานช่วงที่ไม่เน้นพิธีการมากนัก เพราะด้วยทรงผมที่ยุ่ง ๆ จะไม่เหมาะสมสักเท่าไหร่ค่ะ
8. ทรงผมดัดลอนเป็นคลื่น สาว ๆ หลายคนอาจจะหลงรักทรงผมทรงนี้ เพราะเป็นทรงผมแบบธรรมดา ด้วยการดัดเป็นลอนใหญ่ ๆเป็นคลื่น ปล่อยมาให้ได้ความยาวระดับบริเวณต้นคอหรือหัวไหล่ และเป็นทรงผมที่เหมาะสำหรับการฉลองวิวาห์ที่ทะเลสุดแสนโรแมนติก เป็นอีกหนึ่งทรงผมที่มาแรงในตอนนี้
9. ทรงผมรวบเป็นหางม้า เป็นทรงผมที่นิยมมากสำหรับสาวผมสวย อีกทั้งยังเป็นทรงที่ดูเรียบร้อย ด้วยการเก็บรวบผมทุกเส้น ซึ่งเหมาะสำหรับเจ้าสาวที่มีผมตรงสวย รวมไปถึงทรงผมที่รวบผมครึ่งหัวแบบหลวม ๆ แต่เน้นการม้วนปลายให้มีวอลลุ่ม หรือติดดอกไม้ไว้ด้านหลังด้วยค่ะ
10. ทรงผมสไตล์หวาน ๆ ที่รวมการม้วนเล็ก ๆ หลาย ๆ อันรวมกันไว้ด้านหลังและด้านข้างครึ่งหัว และเหลือผมด้านในสุดไว้เพื่อถักเปียหลวม ๆ ไล่ระดับยาวลงมาด้วยค่ะ อาจจะแถมด้วยการติดดอกไม้เล็ก ๆ แซมไว้ด้วยหลังด้วย ถือเป็นอีกทรงที่ยอดฮิตติดอันดับเทรนด์ทรงผมมานาน ตั้งแต่เทรนด์สไตล์เกาหลีเข้ามีบทบาทด้านแฟชั่นมากขึ้น
เป็นยังไงกันบ้างคะสาว ๆ กับเทรนด์ทรงผมแต่งงานสุดฮิตในปีนี้ หวังว่าคงถูกใจและสามารถนำไปใช้ในงานแต่งของคุณ ๆ ได้นะคะ ^^
ที่มา Girly Wedding / Kapook.com
1. ทรงผมถักเปียยาว ยังเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ผมแต่งงานที่ได้รับความนิยมมาตลอด โดยเฉพาะทรงผมถักเปียตามแนวยาวของผมด้านหลัง ซึ่งเป็นทรงผมที่สวยแถมยังมีการเพิ่มลูกเล่นในทรงผม ด้วยการถักเปียเส้นเล็กคาดหน้าผมในสไตล์โบฮีเมียน หรือประดับดอกไม้สีขาวเล็กแซมตามรอยถัก ก็สามารถทำได้แถมดูเก๋ไปอีกแบบเช่นกันค่ะ
2. ทรงผมเกล้ามวยสูง ซึ่งทรงผมนี้จะเข้าตาตั้งแต่แรกเห็น เพราะมีลักษณะคล้ายขนมปังก้อนอยู่ด้านบน อาจจะทำทรงผม ม้วนกลม หรืออาจจะม้วนแบบยุ่ง พอง ๆ และอาจจะมีการเพิ่มลูกเล่นด้วยการนำผ้าคลุมผมติดไว้ด้านล่างของมวยผม หรือจะติดดอกไม้ก็สวยเหมือนกัน
3. ทรงผมถักเปียก้างปลา ถือเป็นทรงผมที่ได้รับนิยมาก เพราะเป็นทรงผมที่ดูเรียบง่าย ธรรมดา ดูง่าย ๆ สะอาด และยังเป็นการโชว์ผมที่ตรงสวยของสาว ๆ ได้อีกด้วย
4. ทรงผมเกล้ามวยต่ำด้านหลังหรือด้านข้าง ถือเป็นทรงผมสุดคลาสสิกของเจ้าสาวทุกคน ส่วนด้านหน้าจะเน้นการแบ่งผมเฉียงซ้ายหรือขวา หรือแบ่งกลางตามความเหมาะสม รวมทั้งเป็นทรงผมที่เหมาะสมกับทุกงานอีกด้วยค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว บ้านเราก็จะนิยมทำผมทรงนี้ เพราะเหมาะกับชุดแต่งงานแบบไทย แถมยังสามารถติดเครื่องประดับได้หลากหลายอีกด้วย
5. ทรงผมยาวตรง เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่มีผมสวยอยู่แล้วโดยไม่ต้องแต่งเติมอะไร เพียงแค่ไดร์เบาให้เข้าทรงก็พอแล้ว แต่อย่าให้ยุ่งจนเกินนะคะ ถือเป็นทรงผมที่ง่ายที่สุดเข้ากับทุกโทนสีการแต่งหน้า แถมเข้าได้กับชุดแต่งงานทุกสไตล์ด้วย
6. ทรงผมแนววินเทจ เป็นทรงผมแต่งงานที่โชว์สไตล์การแต่งตัวที่เป็นตัวของตัวเองแบบชัดเจน ซึ่งอาจจะเป็นทรงบ๊อบขนาดสั้น ที่ไดร์พอให้ผมพอง ๆ ให้ดูพองาม หรือจะเป็นผมยาวที่เน้นการม้วนที่ปลายผมให้มีวอลลุ่มหน่อย ๆ หรืออาจจะเป็นการเก็บผมด้านหน้าหรือด้านข้างรวบไว้ข้างหลัง เพื่อเป็นการเปิดหน้าสาว ๆ ให้เห็นชัดมากยิ่งขึ้น
7. ทรงผมมวยผมด้านหลัง คล้ายหญิงชาวฝรั่งเศสในอดีต เป็นอีกหนึ่งทรงผมที่ได้รับการตอบรับที่ดี สำหรับทรงผมสไตล์นี้ อาจเพราะการม้วนมวยผมไว้ด้านหลังคล้ายขนมปังกลม ๆ สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ทุกที่ แถมมีลักษณะทรงผมที่ทำยุ่ง ๆ แบบไม่ตั้งใจ แต่ผลออกมากลับสวยเรียบร้อย ส่วนใหญ่จะใช้ในงานแต่งงานช่วงที่ไม่เน้นพิธีการมากนัก เพราะด้วยทรงผมที่ยุ่ง ๆ จะไม่เหมาะสมสักเท่าไหร่ค่ะ
8. ทรงผมดัดลอนเป็นคลื่น สาว ๆ หลายคนอาจจะหลงรักทรงผมทรงนี้ เพราะเป็นทรงผมแบบธรรมดา ด้วยการดัดเป็นลอนใหญ่ ๆเป็นคลื่น ปล่อยมาให้ได้ความยาวระดับบริเวณต้นคอหรือหัวไหล่ และเป็นทรงผมที่เหมาะสำหรับการฉลองวิวาห์ที่ทะเลสุดแสนโรแมนติก เป็นอีกหนึ่งทรงผมที่มาแรงในตอนนี้
9. ทรงผมรวบเป็นหางม้า เป็นทรงผมที่นิยมมากสำหรับสาวผมสวย อีกทั้งยังเป็นทรงที่ดูเรียบร้อย ด้วยการเก็บรวบผมทุกเส้น ซึ่งเหมาะสำหรับเจ้าสาวที่มีผมตรงสวย รวมไปถึงทรงผมที่รวบผมครึ่งหัวแบบหลวม ๆ แต่เน้นการม้วนปลายให้มีวอลลุ่ม หรือติดดอกไม้ไว้ด้านหลังด้วยค่ะ
10. ทรงผมสไตล์หวาน ๆ ที่รวมการม้วนเล็ก ๆ หลาย ๆ อันรวมกันไว้ด้านหลังและด้านข้างครึ่งหัว และเหลือผมด้านในสุดไว้เพื่อถักเปียหลวม ๆ ไล่ระดับยาวลงมาด้วยค่ะ อาจจะแถมด้วยการติดดอกไม้เล็ก ๆ แซมไว้ด้วยหลังด้วย ถือเป็นอีกทรงที่ยอดฮิตติดอันดับเทรนด์ทรงผมมานาน ตั้งแต่เทรนด์สไตล์เกาหลีเข้ามีบทบาทด้านแฟชั่นมากขึ้น
เป็นยังไงกันบ้างคะสาว ๆ กับเทรนด์ทรงผมแต่งงานสุดฮิตในปีนี้ หวังว่าคงถูกใจและสามารถนำไปใช้ในงานแต่งของคุณ ๆ ได้นะคะ ^^
ที่มา Girly Wedding / Kapook.com
Tuesday, March 12, 2013
6 Creative Wedding Themes
เสียงระฆัง เชิงเทียน เค้ก ช่อดอกไม้ ดนตรี และของประดับอีกมากมายที่รายล้อมอยู่ภายในงานแต่งงาน เป็นตัวช่วยที่ทำให้แขกเหรื่อสักขีพยานความรักของคู่บ่าวสาว สามารถสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของความรักและความโรแมนติกที่ทั้งคู่หยิบยื่นให้กันในวันพิเศษเช่นนี้ ซึ่งแต่ละธีมที่นำมาใช้นั้นแตกต่างกันออกไปตามความชอบและสไตล์ของคู่บ่าวสาว หากคุณเป็นอีกคู่หนึ่งที่กำลังมองหาไอเดียสวย ๆ เพื่อจะนำไปเนรมิตงานแต่งของตัวเองให้สวยสมใจอยู่ สามารถทำได้เช่นกันด้วยธีมแต่งงานเหล่านี้
1. ธีมวินเทจ
สำหรับคนที่ชอบความหรูหรา แฟชั่นวินเทจแบบยุคเก่าของอังกฤษ ในขณะเดียวกันหลงใหลความอ่อนหวานแบบผู้หญิงด้วย คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากธีมในสไตล์วิคตอเรีย เพราะเป็นธีมที่มีคุณสมบัติตามที่กล่าวมา และตรงกับความชอบทุกประการ ของตกแต่งส่วนใหญ่ธีมนี้จะเน้นในเรื่องของการใช้ลวดลาย อย่างเช่น ของตกแต่งที่ประดับด้วยลูกไม้และลูกปัดเป็นส่วนใหญ่ ชุดเจ้าสาวที่มีแขนพอง ๆ กระโปรงบาน ๆ ส่วนภายในงานเสิร์ฟด้วยถ้วยชาเก่า เท่านี้สามารถเปลี่ยนงานแต่งแสนธรรมดา ให้น่าจดจำและประทับใจได้แล้ว
2. ธีมฤดูหนาว
ถึงแม้หลาย ๆ คู่รักจะนิยมแต่งงานกันฤดูร้อน แต่ถ้าหากเป็นคู่ที่ชื่นชอบบรรยากาศหมอกปกคลุมในช่วงเช้า สายลมเย็น ๆ และอากาศหนาว ๆ แบบช่วงปลายปีสามารถนำความชอบส่วนตัวเหล่านั้น มาประยุกต์เป็นธีมงานแต่งได้เช่นกัน ซึ่งธีมนี้ควรจะใช้เน้นสีสันที่ดูสบายตา และให้ความรู้สึกที่สบายใจ อย่างเช่น สีฟ้า ขาว เงิน หรือเป็นสีเขียว แดง ของวันคริสต์มาสก็ได้ ส่วนชุดเจ้าสาวเลือกแบบที่ดูหรูหราฟู่ฟ่านิด ๆ ส่วนของตกแต่งควรเลือกให้ดูเป็นฤดูหนาวมากที่สุด ได้แก่ น้ำแข็งแกะสลัก แบนเนอร์เกล็ดหิมะ ผูกริบบิ้นกับสายรุ้งไว้รอบ ๆ ราวบันได้ และส่วนต่าง ๆ ภายในงาน เป็นต้น
3. ธีมนิทานรักสุดโรแมนติก
สำหรับคู่รักนักอ่านสามารถจะหยิบยกไอเดีย จากหนังสือที่ชอบ มาใช้เป็นธีมหลักของงานแต่งงานได้เหมือนกัน โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบเหล่านิทานและนิยายแนวรักโรแมนติก อย่างเช่น โรมิโอกับจูเลียต ซินเดอเรล่า โฉมงานกับเจ้าชายอสูร หรือเหล่าเจ้าหญิงจากโลกดิสนีย์ และเปลี่ยนเจ้าบ่าวเป็นเจ้าชายก็ได้ การตกแต่งธีมนี้ควรทำให้ดูหรูหรามากขึ้น ด้วยสถานที่ที่มีความหรูหรา โอ่อ่า พร้อมกับบรรเลงเพลงรักด้วยวงดนตรีออร์เคสตรา และเค้กสุดอลังการตกแต่งด้วยริบบิ้นและลูกไม้ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศมากขึ้น
4. ธีมทะเล
ทะเลเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่จะช่วยเพิ่มความพิเศษและความโรแมนติกให้กับงานแต่งได้เป็นอย่างดี หากเลือกใช้ธีมนี้ควรจะเลือกชุดกระโปรงสั้นสีขาวหรือสีครีม ส่วนเจ้าบ่าวควรจะเลือกกางเกงขาสั้นหรือขาสามส่วน เพื่อให้สามารถเคลื่อนไหวได้ง่ายขึ้น ส่วนภายในงานตกแต่งด้วยสีและของประดับเกี่ยวข้องกับทะเล เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศโดยรอบมากขึ้น อย่างโมบายเปลือกหอย หรือซุ้มไม้ เป็นต้น
5. ธีมคันทรี
อีกหนึ่งธีมที่จะทำให้งานแต่งงานเต็มไปด้วยความคึกคัก สนุกสนาน และเสียงหัวเราะจากกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย และบรรยากาศสบาย ๆ อย่างเป็นกันเอง ทั้งนี้ สถานที่ที่ใช้ในการจัดงานควรใช้ไม้ตกแต่งเป็นส่วนใหญ่ และเสริมด้วยกองฟางกับดอกไม้ ส่วนตรงกลางงานจัดฟลอร์สำหรับเต้นรำ เพื่อใช้ฉลองหลังจากเสร็จสิ้นพิธีที่เป็นทางการ ส่วนการแต่งการของคู่บ่าวสาวไม่ควรเลือกชุดที่มีความยาวมากนัก เพื่อความสะดวกสบายในการเคลื่อนไหวและรู้สึกสบายตัวมากกว่า รวมทั้งควรเปลี่ยนรองเท้าจากส้นสูงและรองเท้าหนัง มาเป็นรองเท้าส้นเตี้ยหรือรองเท้าผ้าใบ เพื่อช่วยให้เข้ากับบรรยากาศได้ดียิ่งขึ้น
6. ธีมสยองขวัญ
งานแต่งงานไม่ได้จำกัดแค่ความหวานความโรแมนติกเท่านั้น แต่สามารถเปลี่ยนบรรยากาศให้เป็นแบบสยองขวัญได้เช่นกัน นอกจากจะดูแปลกใหม่ไม่ซ้ำใครแล้ว รับรองเลยว่างานแต่งของคุณจะเป็นที่จดจำของแขกไปอีกนานเลย โดยการใช้ของตกแต่งสไตล์แบบมนต์ดำ หรือในแบบฮาโลวีน และเน้นความน่ากลัวด้วยสีดำ แดง และส้ม
ธีมสำหรับงานแต่งไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นแบบใดแบบหนึ่งเท่านั้น เพราะเป็นวันพิเศษที่ไม่ได้จัดขึ้นบ่อย ๆ ดังนั้น สามารถจะปรับเปลี่ยนบรรยากาศได้ตามความชอบและความสนใจส่วนตัวได้ไม่ว่ากัน อย่างเช่น 6 ธีมแต่งงานสุดแนวที่เรานำมาฝากกัน เพื่อให้ภาพและความทรงจำยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจไปได้อีกนานเท่านาน
ที่มา kapook.com
1. ธีมวินเทจ
สำหรับคนที่ชอบความหรูหรา แฟชั่นวินเทจแบบยุคเก่าของอังกฤษ ในขณะเดียวกันหลงใหลความอ่อนหวานแบบผู้หญิงด้วย คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากธีมในสไตล์วิคตอเรีย เพราะเป็นธีมที่มีคุณสมบัติตามที่กล่าวมา และตรงกับความชอบทุกประการ ของตกแต่งส่วนใหญ่ธีมนี้จะเน้นในเรื่องของการใช้ลวดลาย อย่างเช่น ของตกแต่งที่ประดับด้วยลูกไม้และลูกปัดเป็นส่วนใหญ่ ชุดเจ้าสาวที่มีแขนพอง ๆ กระโปรงบาน ๆ ส่วนภายในงานเสิร์ฟด้วยถ้วยชาเก่า เท่านี้สามารถเปลี่ยนงานแต่งแสนธรรมดา ให้น่าจดจำและประทับใจได้แล้ว
2. ธีมฤดูหนาว
ถึงแม้หลาย ๆ คู่รักจะนิยมแต่งงานกันฤดูร้อน แต่ถ้าหากเป็นคู่ที่ชื่นชอบบรรยากาศหมอกปกคลุมในช่วงเช้า สายลมเย็น ๆ และอากาศหนาว ๆ แบบช่วงปลายปีสามารถนำความชอบส่วนตัวเหล่านั้น มาประยุกต์เป็นธีมงานแต่งได้เช่นกัน ซึ่งธีมนี้ควรจะใช้เน้นสีสันที่ดูสบายตา และให้ความรู้สึกที่สบายใจ อย่างเช่น สีฟ้า ขาว เงิน หรือเป็นสีเขียว แดง ของวันคริสต์มาสก็ได้ ส่วนชุดเจ้าสาวเลือกแบบที่ดูหรูหราฟู่ฟ่านิด ๆ ส่วนของตกแต่งควรเลือกให้ดูเป็นฤดูหนาวมากที่สุด ได้แก่ น้ำแข็งแกะสลัก แบนเนอร์เกล็ดหิมะ ผูกริบบิ้นกับสายรุ้งไว้รอบ ๆ ราวบันได้ และส่วนต่าง ๆ ภายในงาน เป็นต้น
3. ธีมนิทานรักสุดโรแมนติก
สำหรับคู่รักนักอ่านสามารถจะหยิบยกไอเดีย จากหนังสือที่ชอบ มาใช้เป็นธีมหลักของงานแต่งงานได้เหมือนกัน โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบเหล่านิทานและนิยายแนวรักโรแมนติก อย่างเช่น โรมิโอกับจูเลียต ซินเดอเรล่า โฉมงานกับเจ้าชายอสูร หรือเหล่าเจ้าหญิงจากโลกดิสนีย์ และเปลี่ยนเจ้าบ่าวเป็นเจ้าชายก็ได้ การตกแต่งธีมนี้ควรทำให้ดูหรูหรามากขึ้น ด้วยสถานที่ที่มีความหรูหรา โอ่อ่า พร้อมกับบรรเลงเพลงรักด้วยวงดนตรีออร์เคสตรา และเค้กสุดอลังการตกแต่งด้วยริบบิ้นและลูกไม้ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศมากขึ้น
4. ธีมทะเล
ทะเลเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่จะช่วยเพิ่มความพิเศษและความโรแมนติกให้กับงานแต่งได้เป็นอย่างดี หากเลือกใช้ธีมนี้ควรจะเลือกชุดกระโปรงสั้นสีขาวหรือสีครีม ส่วนเจ้าบ่าวควรจะเลือกกางเกงขาสั้นหรือขาสามส่วน เพื่อให้สามารถเคลื่อนไหวได้ง่ายขึ้น ส่วนภายในงานตกแต่งด้วยสีและของประดับเกี่ยวข้องกับทะเล เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศโดยรอบมากขึ้น อย่างโมบายเปลือกหอย หรือซุ้มไม้ เป็นต้น
5. ธีมคันทรี
อีกหนึ่งธีมที่จะทำให้งานแต่งงานเต็มไปด้วยความคึกคัก สนุกสนาน และเสียงหัวเราะจากกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย และบรรยากาศสบาย ๆ อย่างเป็นกันเอง ทั้งนี้ สถานที่ที่ใช้ในการจัดงานควรใช้ไม้ตกแต่งเป็นส่วนใหญ่ และเสริมด้วยกองฟางกับดอกไม้ ส่วนตรงกลางงานจัดฟลอร์สำหรับเต้นรำ เพื่อใช้ฉลองหลังจากเสร็จสิ้นพิธีที่เป็นทางการ ส่วนการแต่งการของคู่บ่าวสาวไม่ควรเลือกชุดที่มีความยาวมากนัก เพื่อความสะดวกสบายในการเคลื่อนไหวและรู้สึกสบายตัวมากกว่า รวมทั้งควรเปลี่ยนรองเท้าจากส้นสูงและรองเท้าหนัง มาเป็นรองเท้าส้นเตี้ยหรือรองเท้าผ้าใบ เพื่อช่วยให้เข้ากับบรรยากาศได้ดียิ่งขึ้น
6. ธีมสยองขวัญ
งานแต่งงานไม่ได้จำกัดแค่ความหวานความโรแมนติกเท่านั้น แต่สามารถเปลี่ยนบรรยากาศให้เป็นแบบสยองขวัญได้เช่นกัน นอกจากจะดูแปลกใหม่ไม่ซ้ำใครแล้ว รับรองเลยว่างานแต่งของคุณจะเป็นที่จดจำของแขกไปอีกนานเลย โดยการใช้ของตกแต่งสไตล์แบบมนต์ดำ หรือในแบบฮาโลวีน และเน้นความน่ากลัวด้วยสีดำ แดง และส้ม
ธีมสำหรับงานแต่งไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นแบบใดแบบหนึ่งเท่านั้น เพราะเป็นวันพิเศษที่ไม่ได้จัดขึ้นบ่อย ๆ ดังนั้น สามารถจะปรับเปลี่ยนบรรยากาศได้ตามความชอบและความสนใจส่วนตัวได้ไม่ว่ากัน อย่างเช่น 6 ธีมแต่งงานสุดแนวที่เรานำมาฝากกัน เพื่อให้ภาพและความทรงจำยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจไปได้อีกนานเท่านาน
ที่มา kapook.com
Subscribe to:
Posts (Atom)