ไม่นานมานี้ เว็บไซต์ชื่อดังอย่าง www.pantone.com ที่มีชื่อเสียงในฐานะผู้เซตเทรนด์หลักในเรื่องของสีที่ใช่ในวงการแฟชั่น และให้คำปรึกษาในการแมตช์สีต่าง ๆ ให้เข้าคู่กันมากว่า 45 ปี ได้ออกมาเปิดเผยถึงสีที่คาดว่าจะมาแรงในปี 2012 นี้ ซึ่งก็คือ สีส้มแทนเจอรีน แทงโก้ นั่นเอง ทำให้ผู้ที่สนใจในวงการแฟชั่นหันมาจับตามองสีที่จะมาแรงในปีนี้กันเป็นพิเศษเลยทีเดียว
และแน่นอนว่าสาว ๆ ที่กำลังวางแผนจะจัดงานแต่งงานก็ไม่ควรพลาดเทรนด์สุดฮิตนี้เช่นกัน เพราะฉะนั้น ลองมาดูกันดีกว่า ว่าสีไหนจะเป็นสีจะมาแรงในงานแต่งปีนี้ และคุณควรจับคู่กับสีอื่น ๆ อย่างไร เพื่อให้งานออกมาดูดีที่สุด
และแน่นอนว่าสาว ๆ ที่กำลังวางแผนจะจัดงานแต่งงานก็ไม่ควรพลาดเทรนด์สุดฮิตนี้เช่นกัน เพราะฉะนั้น ลองมาดูกันดีกว่า ว่าสีไหนจะเป็นสีจะมาแรงในงานแต่งปีนี้ และคุณควรจับคู่กับสีอื่น ๆ อย่างไร เพื่อให้งานออกมาดูดีที่สุด
1. สีส้มแทนเจอรีน แทงโก้ (Tangerine
Tango Wedding Color Trend)
สีนี้ได้รับเลือกให้เป็นสีที่จะฮอตที่สุดในปีนี้
จึงเหมาะกับสาว ๆ ที่ชอบอัพเดตเทรนด์แฟชั่นเป็นที่สุด แถมสีนี้ยังช่วยให้งานของคุณดูสดใสมากขึ้น
เพราะช่วยแสดงถึงความรู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวาแบบฤดูร้อนและฤดูใบไม้ผลิได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ สีที่เหมาะกับการจับคู่สีส้มแนวนี้ ได้แก่ สีน้ำตาล สีเขียวมรกต สีฟ้าเทอร์ควอยซ์
สีชมพูบานเย็น และสีเหลือง
2. สีเขียวมาการิต้าร์
(Margarita Green Wedding Color Trend)
การตกแต่งดอกไม้ในงาน
หรือชุดเพื่อนเจ้าสาวของคุณ ด้วยสีเขียวอ่อนนี้จะช่วยให้งานแต่งงานของคุณดูอบอุ่นอ่อนหวานมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม สีที่ควรใช้จับคู่กับสีเขียวมาการิต้าร์ ควรเป็นสีที่ดูนุ่มนวลอ่อนโยนเหมือนกัน
เพื่อให้งานแต่งงานของคุณดูโรแมนติกไร้เดียงสา ซึ่งสีเหล่านั้นได้แก่ สีเหลืองและสีชมพูอ่อน
3. สีน้ำเงินโซดาไลท์ (Sodalite
Blue Wedding Color Trends)
หากคุณอยากให้งานแต่งงานดูหรูหรามีระดับล่ะก็
สีน้ำเงินโซดาไลท์น่าจะเป็นสีที่เหมาะกับงานแต่งงานของคุณมากที่สุด เพราะเป็นสีที่ดูลึกลับและมีเสน่ห์น่าค้นหา
ไม่ต่างไปจากสีของเครื่องประดับอัญมณี ทั้งนี้ ควรใช้คู่กับสีสว่าง ๆ เช่น สีขาวหรือสีชมพู
เพื่อให้บรรยากาศไม่ดูเงียบขรึมเป็นทางการจนเกินไป
4. สีไลแลค (Sweet
Lilac Wedding Color Trend)
สาวหวานทุกคนที่ฝันอยากมีงานแต่งงานแบบเจ้าหญิงในเทพนิยาย
จะต้องตกหลุมรักสีไลแลคอย่างแน่นอน เพราะเป็นสีหวาน ๆ ที่ผสมผสานสีม่วงอ่อนและสีชมพูเอาไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว
ทั้งนี้ หากคุณอยากได้งานแต่งที่ดูโรแมนติกอ่อนหวานสไตล์เจ้าหญิง ก็ควรใช้สีนี้จับคู่กับสีเขียวอ่อนหรือสีฟ้าอ่อน
อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการให้งานดูมีสีสันแบบฤดูร้อนขึ้นมาอีกนิด ก็สามารถนำไปจับคู่กับสีส้มแทนเจอรีนได้เช่นกัน
5. สีเปลือกไม้ (Driftwood
Wedding Color Trends)
สีนี้เป็นสีที่เหมาะกับงานแต่งหลากหลายแนว
ไม่ว่าจะเป็นแนววินเทจ แนวศิลปะแบบรัสติก หรือจะใช้ตกแต่งงานแต่งริมชายหาดแบบง่าย
ๆ ก็ดูสวยโดดเด่นไม่แพ้ใครเช่นกัน ทั้งนี้ สีนี้สามารถจับคู่ได้กับทั้งสีโทนสว่างและสีโทนมืด
ขอเพียงแค่เข้ากับธีมงานแต่งแบบที่คุณต้องการก็เพียงพอ อย่างไรก็ตาม ควรตกแต่งงานของคุณด้วยกิ่งไม้
หรือดอกไม้เอาไว้ด้วย เพื่อให้ดูเข้ากับสีธรรมชาติแบบนี้มากขึ้น
6. สีค็อกคาทู (Cockatoo
Wedding Color Trends)
สีที่ตั้งชื่อตามชื่อของนกแก้วค็อกคาทูนี้
เป็นสีที่มีดูสดใสไม่แพ้นนกแก้วตัวจริงแม้แต่น้อย เพราะเป็นสีที่รวมความสดใสของสีฟ้าเทอร์ควอยซ์
กับความหรูหราอลังการของสีเขียวมรกตเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว เหมาะกับการแต่งงานทุกคอนเซ็ปต์ฤดู
ไม่ว่าจะเน้นสีโทนร้อนเพื่อให้เหมาะกับฤดูร้อนและฤดูใบไม้ผลิ หรือจะจับคู่กับสีเรียบ
ๆ เพื่อให้เข้ากับฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวก็ดูดีไม่แพ้กัน
7. สีชมพูบานเย็น
(Cabaret Pink Wedding Color Trend)
หากคุณกำลังมองหางานแต่งที่ดูสนุกสนานเป็นกันเอง
และดูโรแมนติกหวานแหววด้วยในเวลาเดียวกัน สีชมพูบานเย็นจะเป็นสีที่เหมาะกับงานแต่งของคุณอย่างแน่นอน
เพราะมีทั้งความอ่อนหวานน่ารักแบบเด็กผู้หญิงสไตล์สีชมพู และความร่าเริงในแบบของสีม่วงเข้มผสมผสานอยู่อีกด้วย
อย่างไรก็ดี สีที่เหมาะกับสีนี้ได้แก่ สีขาว สีดำ สีทอง และ สีน้ำตาล นอกจากนี้ หากคุณต้องการงานแต่งแนวฤดูร้อนสดใส
ก็สามารถนำนี้ไปจับคู่กับสีมาแรงประจำปี อย่างสีส้มแทนเจอรีนได้อีกด้วย
8. สีเหลืองทานตะวัน
(Solar Power Yellow Wedding Color Trends)
เพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับงานแต่งของคุณด้วยสีเหลืองสดใส
ซึ่งเหมาะกับงานแต่งนอกสถานที่ เช่นงานแต่งในสวนเป็นที่สุด เพราะเป็นสีที่เหมาะกับการตกแต่งแนวธรรมชาติ
ดังนั้น จะเหมาะกับที่ ๆ ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้และพุ่มไม้ต่าง ๆ ทั้งนี้ สีที่เข้าคู่กับสีเหลืองแบบนี้ได้ดีที่สุด
คือสีเขียวมาการิต้าร์
อย่างไรก็ตาม จำไว้ว่านอกจากจะเลือกสีที่กำลังฮิตและแมตช์กันให้ถูกแล้ว คุณยังควรเลือกสีให้เหมาะกับอุปนิสัยของตัวคุณเองและเจ้าบ่าวของคุณด้วย
เพื่อให้งานแต่งงาน แสดงออกถึงความชอบและไลฟสไตล์ของคุณทั้งคู่มากขึ้น